วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โรงเรียนบ้านนาตอน










     
                 

    สุขภาพปากและฟันกับโรคหัวใจ

            
                 
                                     หลาย ๆ ท่านคงเข้าใจถึงความรุนแรงของโรคหัวใจเป็นอย่างดี โรคชนิดนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุเท่านั้น เด็กก็เป็นโรคนี้ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางรายอาจต้องเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก โดยสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่แรกเกิด หรือตรวจพบได้เมื่อออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว สำหรับเด็กบางรายอาจเป็นโรคหัวใจในภายหลังเมื่อมีอายุหลายปีแล้ว ซึ่งเด็กเหล่านี้จะมีอาการเหนื่อยง่าย ไม่สามารถวิ่งเล่นได้เหมือนเด็กปกติ และต้องพบแพทย์อยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของโรคหัวใจนั้น ๆ ด้วย
                
                โรคหัวใจในเด็กมีชนิดไหนบ้าง?
                   

                จาก การศึกษาทางระบาดวิทยาในประเทศไทยโรคหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิดพบบ่อยที่ สุดในวัยเด็กซึ่งมีมากถึง 70–80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโรคหัวใจที่เกิดภายหลังพบประมาณ 20–30 เปอร์เซ็นต์ของโรคหัวใจในวัยเด็กทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจชนิดพิการแต่กำเนิดหรือชนิดที่เกิดภายหลัง ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจในการรักษาโรคหัวใจ และอาการเจ็บป่วยด้านอื่นแต่ละเลยการดูแลสุขภาพปากและฟันของเด็กโดยหารู้ไม่ ว่าโรคฟันเป็นโรคที่มีผลต่อการติดเชื้อที่หัวใจได้
               
                สุขภาพปากและฟันเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจอย่างไร?
                  
                ภาย ในช่องปากนอกจากประกอบด้วย ฟัน ลิ้น น้ำลาย ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารแล้ว ยังมีเชื้อโรคหลายชนิดซุกซ่อนอยู่โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สแตรปโตคอคคัส เชื้อแบคทีเรียกลุ่มนี้จะยิ่งพบมากขึ้นในช่องปากที่มีฟันผุ เหงือกบวมอักเสบ ในคนไข้โรคหัวใจถ้ามีบาดแผลในช่องปากเชื้อโรคเหล่านี้จะแทรกซึมเข้าทางบาด แผลไปตามกระแสเลือด ฝังตัวที่ผนังหัวใจเกิดภาวะผนังหัวใจอักเสบได้
                  
                ภาวะ เยื่อบุหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อนี้จะมีอาการแสดงคือ มีไข้เรื้อรัง อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดข้อ ข้ออักเสบ มีการติดเชื้อกระจายไปตามอวัยวะต่าง ๆ ปัสสาวะปนเลือด ซีด มีจุดเลือดออกตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เกิดภาวะหัวใจวาย อาการเหล่านี้ส่วนหนึ่งเกิดจากเด็กไม่ได้รับการดูแลสุขภาพปากและฟันที่ดี ทำให้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
                
                แล้วจะดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างไร?

                  
                การ ดูแลสุขภาพปากและฟันให้ดีอยู่เสมอในเด็กโรคหัวใจเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ ปกครองและคนไข้ต้องใส่ใจดูแลควบคู่ไปกับการรักษาโรคหัวใจด้วย เริ่มตั้งแต่
                  
                1. การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและรับประทานอย่างถูกวิธี
                  
                2. การทำความสะอาดในช่องปากให้ถูกวิธี
               
                เลือกรับประทานอาหารอย่างไรไม่ทำให้ฟันผุ?
                  
                นม เป็นอาหารหลักสำหรับทารกแรกเกิด และเป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับวัยต่อ ๆ มา แต่ถ้าผู้ปกครองเลี้ยงเด็กด้วยขวดนมอย่างไม่เหมาะสมก็จะทำให้เด็กเกิดฟันผุ ได้วิธีการป้องกันฟันผุจากการเลี้ยงลูกด้วยขวดนม
                  
                1. ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือนมจืด ไม่ควรให้ลูกกินนมที่มีรสหวาน และนมเปรี้ยว นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังไม่ควรเติมน้ำตาล น้ำหวาน หรือน้ำผึ้งไปผสมในนม
                  
                2. ให้เด็กดูดน้ำเปล่าตามทุกครั้งหลังจากดูดนม
                  
                3. ผู้ปกครองควรทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เด็กหลังดูดนมทุกครั้ง
                  
                4. ไม่ควรให้ลูกดูดนมก่อนนอน ถ้าจะให้ลูกดูดขวดก่อนนอนก็ควรให้ดูดน้ำเปล่า ไม่ควรใช้นม น้ำผลไม้ หรือน้ำหวาน
                  
                5. การใช้หัวนมหลอกไม่ควรทาด้วยของหวาน เช่น น้ำตาล น้ำเชื่อม น้ำหวาน น้ำผึ้ง
                  
                6. เมื่อเด็กหัดนั่งได้ควรให้เด็กหัดดื่มจากแก้วแทนขวดนมอาหารว่างที่มี ประโยชน์ต่อร่างกายและไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพฟันที่ทันตแพทย์แนะนำ มีลักษณะดังนี้
                  
                1. ควรเป็นอาหารที่ส่งเสริมให้มีการบดเคี้ยวเพื่อกระตุ้นให้มีการหลั่งของ น้ำลาย เช่น ปลาหมึกปลาสวรรค์ ถั่วลิสงทอด ถั่วลิสงต้ม ข้าวโพดต้ม
                  
                2. เมื่อรับประทานแล้ว อาหารนั้นเหลือติดฟันน้อยมากและมีเส้นใยช่วยขัดผิวฟัน เช่น ฝรั่ง สับปะรด ชมพู่ มันแกว แอปเปิ้ล
                  
                3. มีคุณค่าทางสารอาหารแต่มีแป้งและน้ำตาลต่ำ เช่น ผักสด ผลไม้สด เมล็ดธัญพืช นมจืด
                  
                วิธี การทำความสะอาดในช่องปากไม่ได้มีแต่การแปรงฟันเท่านั้นยังมีเครื่องมือ ช่วยทำความสะอาดอีกหลายอย่าง เช่น ผ้าก๊อซ หรือ ผ้าอ้อม ไหมขัดฟัน เป็นต้น
               
                การทำความสะอาดช่องปากในเด็กควรเริ่มตั้งแต่แรกเกิดดังนี้
                  
                1. ในเด็กที่ฟันยังไม่ขึ้น ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดบริเวณเหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เช้าและก่อนนอนทุกวัน
                  
                2. สำหรับเด็กที่ฟันขึ้นแล้วในระยะแรก ผู้ปกครองควรแปรงฟันให้จนถึงให้เด็กแปรงเองบ้างและดูจนกระทั่งเด็กสามารถ แปรงได้สะอาดเองในที่สุด
                  
                3. ควรเลือกใช้แปรงที่มีขนาดพอเหมาะ ขนแปรงอ่อนนุ่ม
                  
                4. เริ่มใช้ยาสีฟันสำหรับเด็ก เมื่อเด็กบ้วนน้ำได้แล้วเพื่อป้องกันการกลืนยาสีฟัน
                  
                5. ทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
               
                ควรพาลูกมาพบหมอฟันเมื่อไร?
                  
                เมื่อ ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น (อายุประมาณ 6 เดือน) หรืออย่างช้าไม่เกิน 1 ปี ผู้ปกครองควรพาเด็กมาพบทันตแพทย์ แต่สำหรับเด็กโรคหัวใจควรพบทันตแพทย์ครั้งแรกตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น เพื่อทันตแพทย์จะได้ตรวจ และดูแลด้านทันตกรรมป้องกัน เช่น การให้ฟลูออไรด์เสริมชนิดรับประทานหรือการเคลือบฟลูออไรด์โดยทันตแพทย์ และวางแผนการดูแลตามช่วงอายุอย่างเหมาะสม
                  
                ใน การพบทันตแพทย์ทุกครั้ง ผู้ปกครองควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบถึงชนิดของโรคหัวใจที่เด็กเป็น เพื่อทันตแพทย์จะได้พิจารณาให้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมก่อนการรักษาทางทันต กรรมที่ต้องมีเลือดออก เพื่อป้องกันการติดเชื้อไปที่ผนังหัวใจ
                คำแนะนำในการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี
                  
                ในเด็กแรกเกิด : ควรพบทันตแพทย์ครั้งแรกเพื่อรับคำแนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง
                  
                เด็ก 6 เดือน : ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นให้เริ่มฝึกดื่มนมจากถ้วย (เมื่อเด็กหัดนั่ง) เลิกนมมื้อดึก
                  
                อายุ1-3 ปี : พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน การนัดพบทันตแพทย์ขึ้นอยู่กับการพิจารณาเป็นกรณีไป
                  
                อายุมากกว่า 3 ปี : ฟันน้ำนมขึ้นครบ 20 ซี่ ก็จะเริ่มเคลือบฟลูออไรด์โดยทันตแพทย์
                  
                อายุ 6 ปี : ฟันกรามแท้ซี่แรกขึ้น นัดทันตแพทย์เพื่อปิดหลุมร่องฟันกรามที่ขึ้นใหม่.
               
                ทันตแพทย์หญิงนันทนา ศรีอุดมพร/ทันตแพทย์หญิงศันสนีย์ ดีระลัภนานนท์
                คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
                ที่มาหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

    วิธีสร้างบล็อคทางเดินในสวน

                ขั้นตอนที่ 1
                
    สร้างแบบ กำหนดขนาดของแผ่นปูทางเดิน (ไม่ควรมีข นาดใหญ่มากเกินไป เพราะจะทำให้แผ่นปูที่ได้มีน้ ำหนักมาก) ในที่นี้เลือกเศษไม้มาเลื่อยเป็น 4 ชิ ้น เพื่อเป็นขอบและความหนาของแผ่นปู โดยให้มีขน าดความยาวประมาณ 25-30เซนติเมตร และเตรียมแผ่นไ ม้บางทำเป็นพื้นรองปูน โดยตอกตะปูให้ไม้ทั้ง 5 ชิ้นนี้เป็นแบบเริ่มต้นของพื้นทางเดิน หรือตัวแ บบนั่นเอง
               
                
                ขั้นตอนที่ 2
                
    จากนั้นลงมือผสมปูนโดยใช้ปูนขาวสำเร็จรูปผสมกับ ทรายละเอียด อาจใช้ทรายหยาบก็ได้แล้วแต่ความชอบ เพราะหากใช้เนื้อทรายที่หยาบ แผ่นปูพื้นของเรา ก็จะมี TEXTURE ที่หยาบ ใช้อัตราส่วนปูนกับทราย เท่ากับ 1:1 แล้วผสมน้ำลงไปในขณะผสมปูนอย่าให้ป ูนเหลวจนเกินไป จะทำให้ต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจ ะแห้ง และแผ่นปูพื้นอาจกร่อนง่าย
               
                
                ขั้นตอนที่ 3
                
    หล่อพื้นปูนตามตัวแบบ - เมื่อผสมปูนเรียบร้อยแล้ ว เทหรือตักปูนที่ผสมลงในแบบ โดยในขณะที่ทำควรใ ช้ไม้กวนปูน ไล่ฟองอากาศเพื่อให้แผ่นปูพื้นของเ รามีหน้าตาที่ค่อนข้างเรียบไม่เป็นหลุมเป็นฟองอ ากาศมากจนเกินไป
               
                
                ขั้นตอนที่ 4
                
    สร้างลวดลาย - เหนืออื่นใดก่อนการลงมือผสมปูน ค วรออกแบบคร่าวๆ ไว้ในใจแล้วว่าหน้าตาของแผ่นปูพื ้นในส่วนสวยของคุณจะเป็นรูปแบบใด ซึ่งหากเป็นแบ บเรียบ-เก๋เล่นลวดลายของรูปทรงใบไม้แปลกๆ คุณอา จผสมสีในขั้นตอนการผสมปูนได้เลย โดยมีเ ทคนิคว่ า ควรใช้สีแม่สีผสมให้ได้สีที่ต้องการ เมื่อผสมใ นปูนเปียก ควรให้สีมีความเข้มหนักกว่าที่ต้องกา ร เพราะเมื่อปูนแห้งสีที่ได้จะจางลงไปอีกและเมื ่อต้องการแต่งผิวหน้าของแผ่นปูพื้น ควรรอเวลาที ่ปูนเริ่มเกาะตัวแต่ยังไม่แห้งสนิท มีความหนืดยื ดหยุ่น ซึ่งลวดลายบนแผ่นทางเดินในสวนมีหลายรูปแ บบ เล่นได้ตามชอบใจดังนี้
               
                
                ขั้นตอนที่ 5
                
    สร้างเส้นทางในสวน - จากนั้นปล่อยให้แผ่นปูทางเ ดินที่ตกแต่ง เล่นลวดลายตามใจชอบของคุณแห้งสนิท จึงค่อยๆเคาะเอาแบบที่สร้างขึ้นออกจากแผ่นไม้แ ล้วนำแผ่นปูพื้นทั้งหมดที่คุณได้สร้างขึ้นแต่งเ ติมตามมุมต่างๆ ไม่จำเป็นต้องใช้แบบเพียงแบบ เดียว อาจทำแบบสวยสมบูรณ์เพียงหนึ่งแผ่น ใช้พื้ นปูพื้นประกอบกับแผ่นหินทรายที่มีอยู่เดิมหรือป ูในส่วนที่เชื้อเขิญเข้าสวน วางประดับใกล้กับมุ มนั่งเล่น หรือตามมุมที่คุณชื่นชอบ จะได้นั่งมอ งได้ไม่รู้เบื่อสำหรับคนที่มีสวนริมระเบียงห้อง คอนโดฯ หรือมุมเล็กๆในสำนักงานแผ่นปูพื้นจากฝีมื อคุณก็เป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มรายละเอียดให้สวนเล็ กๆ น่าสนใจขึ้น