รัชกาลที่ 4 นั้นท่านทรงเป็นนักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลก
นอกจากจะเก่งทางธรรมแล้ว ทางโลกท่านก็ทรงมีพระปรีชาสามารถ ทางอ่าน พูด และเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
ในทางดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ก็มีความเก่งกล้าไม่แพ้นักดาราศาสตร์ของโลกตะวันตก
ทรงคำนวณดวง ดาวและทรงระบุว่าจะเกิดสุริยุปราคาที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แม่นยำ ทั้งเวลาและสถานที่
ถึงกับเชิญชาวต่างประเทศจากสิงคโปร์ให้มาชมสุริยุปราคาในเมืองไทย
และเป็นจริงที่ทรงพยากรณ์ไว้ทุกประการ
นอก จากนี้แล้วในรัชสมัยของพระองค์ก็ได้ทรงเปลี่ยนแปลงระบบเงินตราของไทย จากใช้เงินพดด้วงมาเปลี่ยนเป็นเงินเหรียญแบนแบบที่ใช้อยู่ในนานาประเทศขณะ นั้น
ได้ทรงสั่งเครื่องจักรผลิตเหรียญกษาปณ์จากอังกฤษมาผลิตเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ซึ่ง ในครั้งนั้น พระนางเจ้าวิคตอเรียของอังกฤษ ได้ทูลเกล้าถวายเครื่องจักรผลิตเหรียญกษาปณ์มาถวายรัชกาลที่ 4 ด้วย เครื่องจักรนั้นผลิตเหรียญได้แต่คุณภาพไม่ดี จึงเรียกเหรียญรุ่นนั้นว่า “เหรียญบรรณาการ”
แต่ผลิตออกมาน้อยจึงหายากและมีราคาสูงกว่าเหรียญบาทรัชกาลที่ 4 มากมายหลายเท่าตัว ก่อนที่เลิกผลิตเงินพดด้วงในสมัยรัชกาลที่ 4 นี้
ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ผลิตเงินพดด้วงที่ระลึกขึ้นเรียกว่า “เงินพดด้วงที่ระลึกตรามหามงกุฎ–พระแสงจักร”
พดด้วงที่ให้ผลิตขึ้นนี้ มีขนาดใหญ่ที่สุดและให้เป็นเถาครบชุด
เริ่มตั้งแต่ขนาดใหญ่สุด เถา ชั่ง ตำลึง กึ่งตำลึง บาท กึ่งบาท สลึง เฟื้อง และกึ่งเฟื้อง
พดด้วง ชนิดราคา ชั่ง ตำลึง และกึ่งตำลึงนี้ผลิตขึ้นเป็นที่ระลึกเนื่องในงานฉลองพระที่นั่งอนันตสมาคม (องค์เก่า) ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2402
ด้านหน้าพดด้วงเหล่านี้ เป็นตราพระมหามงกุฎ มีลายกนกใบไม้เป็นลายพื้นกรอบล้อม 2 ชิ้นแกะด้วยมือ
ส่วนชนิดราคาตำลึงและกึ่งตำลึงตีตราด้วยแม่ตรา
ด้านบนตราพระแสงจักรมี 7 กลีบบ้าง 11 กลีบบ้าง ใจกลางจักรมีจุด
พดด้วง สภาพเช่นนี้ หนัก 4 บาท (62.08 กรัม) มีตรามงกุฎ-จักร 7 กลีบ ตราทั้งคู่คมและลึกมาก มีสภาพสมบูรณ์มาก หายากที่อยู่ในสภาพเช่นนี้
ได้มีการนำพดด้วงราคา 4 บาทลูกนี้ ออกประมูลเมื่อไม่นานมานี้ ตั้งราคาขั้นต้นไว้ 2 แสนบาทนับว่าสูงมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น